แนะนำโปรแกรมทำให้เห็นแรมมากกว่าสามกิ๊ก

 

มีผู้ใช้หลายท่านคงทราบแล้วว่า Windows 7 ไม่สามารถเห็นแรมในระบบเกิน 3 GB กว่าๆ ได้ ซึ่งเป็นข้อเสียของ ระบบปฎิบัติการ 32 บิต ถึงแม้คุณจะใส่แรมให้มากเพียงใด ระบบก็จะเห็นแค่ 3 GB กว่าๆ เท่านั้น ถ้าต้องการใช้แรมให้เกินกว่า 3 GB ก็คงต้องหันไปใช้ Windows 7 แบบ 64 บิต  แต่ยังไม่หมดหวังสำหรับการ จะใช้แรมให้เกิน 3 GB ใน Windows 7 แบบ 32 บิต
ทิปนี้จะทำให้คุณได้ ใช้แรมได้เกินขีดจำกัดของ OS 32 บิต โดยสามารถใช้แรมได้ถึง 128 GB ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณบุคคลในสังคมอินเตอร์เน็ตที่ชื่อ Deepxw ได้สร้างสรรผลงานโดยการสร้างตัวที่จะไป Patch ตัว Kernel

 

1  ให้ดาวน์โหลดไฟล์ที่ชื่อ RAMFix จากลิ้งค์นี้http://www.4shared.com/file/218786549/16335d81/RAMFix.html

2  เมื่อได้ไฟล์มาและขยายไฟล์แล้วจะเจอไฟล์ที่ชื่อ RAMFix.exe ให้ดับเบิลที่ไฟล์นี้ จะมีหน้าต่างเปิดขึ้นมา 2 หน้าต่าง ได้แก่

หน้าต่าง Command Prompt และ หน้าต่าง WinZip Self-Extractor  ปล่อยหน้าต่าง WinZip Self-Extractor ทิ้งไว้ไม่ทำอะไรทั้งสิ้น ให้มาทำงานที่หน้าต่าง Command Prompt 

3  มาที่หน้าต่าง Command Prompt ให้กดคีย์  Enter  จะมีหน้าต่างใหม่ขึ้นมาเป็นภาษารัสเซีย ให้คลิกที่ปุ่มตรงกลางหน้าต่าง

4  ปล่อยโปรแกรมทำงานสักครู่จะมีหน้าต่างเล็กๆ เปิดขึ้นมา ให้คลิกปุ่ม OK

5  ต่อมาหน้าต่าง Command Prompt จะมีคำถาม Do you really want to apply this patch ? ให้กดคีย์  Y

6  โปรแกรม Patch จะทำงานสักครู่ แล้วจะแจ้งให้กดคีย์  Enter  ( Press Enter to exit) 

7  เมื่อขบวนการ Patch เสร็จสิ้นระบบจะแจ้งให้คุณกดคีย์ใดคีย์หนึ่ง เพื่อรีสตาร์ท ให้คุณทำตามระบบแจ้ง 

8  เมื่อรีสตาร์ทคอมฯ จะเห็นว่าที่ Windows Boot Manager จะมีเมนูให้เลือกบูตขึ้นมาอีกหนึ่งเมนู

Microsoft Windows [Version 6.1.7600] >128 GB Memory ให้คุณเลือกเมนูนี้จะเป็นการใช้ Windows 7

ที่แรมเกิน 3 GB ได้ ส่วนเมนู Windows 7 ก็คือ Windows 7 เดิมที่ใช้แรมไม่เกิน 3 GB

9  มาทดสอบว่าใช้แรมเกิน 3 GB จริงหรือไม่

**  พิมพ์ view amount of ram and process speed  ลงในช่อง Search ของ Start Menu แล้วกดคีย์  Enter  หรือคลิกที่ Start Menu และคลิกขวาที่ Computer เลือกคำสั่ง Properties เมื่อหน้าต่าง System เปิดขึ้นมาให้สังเกตที่รายการ Installed memory (RAM): 4GB จะไม่มีวงเล็บบอกว่า usable อีก (ในตัวอย่างทิปนี้ใช้แรม 4GB)

**  คลิกขวาที่ TaskBar เลือกคำสั่ง Start Task Manager หน้าต่าง Windows Task Manager จะเปิดขึ้นมาให้คลิกที่แท็บ

Performance ดูที่รายการ Physical Memory (MB) จะเห็นว่า Total ของแรมจะมีเกิน 3 GB 

ถาม// ก็คือใช้งานจริงได้ไม่เกิน 3 G เข้าใจแบบนี้ถูกต้องหรือเปล่าคะ
ตอบ//ถูกต้อง

ถาม//หากเราใช้ RAMFix แล้ว จะทำให้วินโดว์ 7 ใช้งานแรมได้เต็มที่ เข้าใจถูกต้องหรือเปล่าคะ
ตอบ//ถูก ต้อง

ถาม//คำที่ว่า การมองเห็นแรมในวินโดว์ ก็คือ การใช้งานของแรม  อันนี้เป็นความหมายเดียวกันหรือเปล่าคะ
ตอบ//อันนี้คุณลองเองเลยดีกว่า เพราะผมเป็นคนเขียนทิปแล้วจะมารับรองทิปตัวเองว่า Work สุดๆ มันไม่เหมาะ ถ้าใช้ RAMFix ให้ลองเปิดโปรแกรมให้มันมากที่สุดที่คุณจะเปิดได้ แล้วดูที่ Task Manager  ที่หัวข้อ Physical Memory จะบอกเองว่าใช้ RAM ไปเท่าไร และเหลือเท่าไร แล้วคำนวณดูว่ามันเกินหรือไม่

ถาม//หากใช้งาน RAMFix แล้ว แต่อยากกลับมาใช้เหมือนเดิม คือให้มองเห็นแรม 3 G มีวิธีอย่างไรคะ
ตอบ//มันจะมีเมนูให้เลือกอยู่แล้วตอนเข้า windows แบบ 32บิตปกติ แต่ถ้าจะลบ RAMFix ก็ลบออกได้หาโปรแกรม Utility ที่ปรับแต่งระบบมาลง อย่าง Windows 7 Manager ก็มีฟีเจอร์ลบได้ หรือจะผ่านทาง DOS ก็ได้แต่ต้องรู้คำสั่ง ถ้าจะเอาก็จะสอนให้

วิธีเอาเมนูบูตของ RAMFix ออก แบบ Command Prompt

1. พิมพ์ cmd ที่ช่อง Search ของ Start Menu แล้วกดคีย์ Ctrl + Shift + Enter เพื่อใช้ Command Propmt ในสถาณะ Administrator

2. ที่ Command Propmt ให้พิมพ์ bcdedit แล้ว Enter  ดู identifier ของบูตทั้ง 2 ให้จด id ของบูต RAMFix ไว้ 

3. เมื่อได้  identifier ของบูต RamFix แล้วก็มาลบออก ให้พิมพ์คำสั่งดังนี้

bcdedit /delete (id ของบูต RAMFIX) 

ตัวอย่างของผม

bcdedit /delete {aa765011-c937-11de-8a39-fb420e298c39}  แล้ว Enter

ถ้าพิมพ์ถูก ต้องจะได้ข้อความ The operation completes successfully 

วิธีเอาเมนูบูตของ RAMFix ออกอีกแบบหนึ่ง ในแบบนี้เครื่องคุณต้องไม่มี os ตัวอื่น เช่น XP หรือ Vista อยู่นะครับ ต้องมีแค่ Windows 7 32 บิต กับ RAMFix

เท่านั้น เพราะจะทำให้เมนู OS ตัวอื่นหายไปด้วย

1. พิมพ์ systempropertiesadvanced ที่ช่อง Search ของ Start Menu แล้วกดคีย์ Enter
2. จะมาที่หน้าต่าง System Properties โดยแสดงผลที่แท็บ Advanced ให้คลิกที่ Settings
3. มาที่หน้าต่าง Starup and Recovery ให้คลิกเลือกบูต Windows 7 (32 bit) ที่ Default operating system:
และคลิดเอาเครื่องหมายถูกออกจาก Time to display list of operating system และ time to display recovery options when needed
4. คลิกปุ่ม OK รีสตาร์ทเครื่องใหม่ 

*****************************************

จากที่บางท่านถามถึงที่มาของไฟล์นี้ ผมขอมาตอบเองเลยแล้วกัน
โปรแกรม RAMFix นี้ ผมเป็นคนรวบรวมและเขียน Code ในการติดตั้งเอง ซึ่งถ้าท่านนำไฟล์ RAMFix.exe เปลี่ยนนามสกุลเป็น .zip ท่านจะพบไฟล์ 3 ไฟล์ คือไฟล์ Staforce-4GB.exe , RemoveWaterMark.exe, และ RAMFix.exe ผมจะแยกรายละเอียดทีละไฟล์ ตามขั้นตอนการทำงาน

เมื่อท่าน เปิดโปรแกรม จะเปิด Winzip Self-extractor ขึ้นมา และทำการขอสิทธิ Admin และหลังจากแตกไฟล์แล้ว จะทำการเรียกไฟล์ RAMFix.exe ที่เป็นไฟล์ย่อยภายใน

เมื่อ ไฟล์ RAMFix.exe (อันภายใน) ถูกรัน มันจะทำการเปิด DOS ขึ้นมา และทำการตรวจสอบสิทธิ Admin แล้วจะขึ้นข้อความต้อนรับ หลังจากนั้น ก็จะทำการเรียกไฟล์ Staforce-4GB.exe ขึ้นมา เป็นโปรแกรมภาษารัสเซีย

ไฟล์ Staforce-4GB.exe นี้ เป็นหัวใจสำคัญของ Patch ตัวนี้ เพราะมันจะเป็น Patch ที่ไปแก้ไฟล์วินโดว์ ทำให้สามารถใช้แรมมากกว่า 4 GB ได้ ไฟล์นี้สร้างมาจากชาวรัสเซีย
http://staforce.msk.ru/load/ispolzovanie_bolee_4_gb_pamjati_v_windows_7_x86_build_7600_rtm_11112009/11-1-0-39 โดยอิงมาจากผลจากวิจัย http://www.geoffchappell.com/viewer.htm?doc=notes/windows/license/memory.htm
แต่ตัวไฟล์ที่ผมโหลดมาจากต่างประเทศที่เว็บบิทแห่งหนึ่งนั้น มี Trojan ฝังตัวอยู่ด้วย ผมจึงได้แยกเอา Trojan ออก ให้เหลือแต่ตัว Patch แล้วนำมา Pack ใหม่

หลังจากที่โปรแกรม Staforce-4GB.exe ทำงานเสร็จแล้ว มันจะปรับวินโดว์ให้ไปอยู่ใน Test Mode เพื่อให้ไฟล์ที่ถูกดัดแปลงสามารถทำงานได้ แต่จะทำให้มีข้อความขึ้นเตือนบนจอว่าเครื่องอยู่ใน Test Mode (คล้ายๆข้อความ Safe Mode ที่ขึ้นมุมจอ) ผมจึงต้องเพิ่ม Patch เพื่อลบข้อความเตือนนี้ โดยได้ใช้ Code ของ Deepxw จาก http://deepxw.blogspot.com/ มาเป็นตัวดัดแปลงไฟล์ user32.dll.mui เพื่อลบ Watermark นี้ออก

หลัง จากเสร็จสิ้นการลบ Watermark แล้ว โปรแกรมของผมจะสั่งรัน mcbuilder.exe อีกทีนึง เพื่อให้วินโดว์ทำการ Rebuild Cache แล้วทำการ Restart เครื่อง

ที่มา : https://sites.google.com/site/redcyberkid/home/windows-basic/win7-tip-01/tip-55